Nawamintibet Nursing Home

เกี่ยวกับ Nawamintibet Nursing Home


ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุนวมินทร์ธิเบศร์ เนอร์สซิ่งโฮม บางใหญ่ จ.นนทบุรี
รับดูแลผู้สูงอายุผู้ป่วยคนชรา ผู้ป่วยที่เป็นอัมพฤกษ์อัมพาต และทำกายภาพบำบัด
ผู้ป่วย Feed อาหารทางสายยาง, Suction (ดูดเสมหะ)
บริการจัดส่งพนักงานดูแลผู้สูงอายุผู้ป่วยนอกสถานที่(ที่บ้าน, โรงพยาบาล , ต่างจังหวัด)
สถานที่พักฟื้นใหม่สะอาดเดินทางสะดวก ปลอดภัย พร้อมอุปกรณ์และเครื่องมือ
รับพนักงานฝึกหัด จัดคอร์ดสอน(ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ)บางใหญ่ นนทบุรี
โทร.095-116-4655, 080 0510713

Social media


Facebook : Nawamintibet.home
Line ID : @rbw8055f

Nawamintibet Nursing Home มาตรฐานคุณภาพศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ จากกระทรวงพาณิชย์

กว่าจะมาเป็นธุรกิจดูแลผู้สูงอายุ



กว่าจะมาเป็นธุรกิจ

 เมื่อย้อนไปสามปีก่อนจะถึงทุกวันนี้การที่คนเราต้องทนอยู่กับหลายสิ่งอย่างด้วยความทุกข์ หรือความสุขก็ตามบางคนผ่านการตัดสินใจมากมายเพื่อที่จะมาถึงทุกวันนี้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าทุกวันนี้ที่เป็นอยู่ของใครบางคนมันเป็นวันที่ดีที่สุด การทำงานทำธรุกิจต่างๆรวมถึงธรุกิจอย่างที่เรียกว่ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ ซึ่งหลายคนยึดติดกับภาพสังคมที่ผ่านมาว่าพ่อแม่เกิดมาไม่ว่ามีลูกกี่คน พ่อแม่เลี้ยงดูได้ แต่ลูกกลับเลี้ยงดูพ่อแม่ไม่ได้นั่นไม่ได้หมายความว่าการเข้าใจแบบนั้นไม่ถูกต้อง แต่สำหรับเรา คิดว่าสังคมทุกวันนี้หรือด้วยการงานที่จำต้องทำทำให้ตัวเราเองมีเวลาไม่พอ เพียงแค่เช้ามาทำงานจนดึกกว่าจะกลับบ้านรถติดนั้นนี่มากมายมาถึงก็เพลียซึ่งมันเป็นเรื่องปกติธรรมดาที่จะไม่มีเวลาแต่ก็ไม่สามารถเป็นข้ออ้างได้ว่างานยุ่งเพราะคนเราหากสละเวลาเพียงเล็กน้อยก็สามารถที่จะอยู่กับครอบครัวได้หมายความว่าเราเองก็สามารถดูแลพ่อแม่หรือครอบครัวได้  แต่หากเป็นการเจ็บไข้ได้ป่วยซึ่ง ตัวเราเองไม่ได้มีความถนัดที่จะต้องมาดูแล รักษา มันก็คงจะยากที่จะเข้าไปดูแลนอกจากต้องให้พ่อแม่เองอยู่ที่โรงพยาบาลเพื่อรักษาตัว ก็คือการรักษาพักฟื้นต้องมีค่าใช่จ่ายขึ้นมาบางรายพ่อแม่มีอาการหนักเป็นอัมพฤกษ์ อัมพาต อัลไซเมอร์ ซึ่งไม่สามารถดูแลตัวเองได้ ทำให้คนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นลูกซึ่งทำงานไม่มีเวลาอยู่แล้ว จึงทำให้เป็นปัญหาสังคมที่มีการทอดทิ้งพ่อแม่ และเป็นปัญหาที่ยาวนานตลอดมาการทำธุรกิจศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ ซึ่งไม่เพียงแต่ดูแลคนชรา แต่ยังมีในส่วนคนไข้ที่ต้องรักษาตัว ทำการพักฟื้นซึ่งหากมองแล้วจะเห็นว่า การที่ให้ตัวคนไข้ ญาติ หรือผู้ป่วยอยู่ที่โรงพยาบาลนั่น ต้องมีค่าใช่จ่ายเยอะพราะไม่สามารถที่จะมาดูแลเองได้หรือให้จะอยู่ที่บ้านเองก็ต้องเป็นกังวลแน่นอนว่าจะเป็นอันตรายมากน้อยเพียงใดแต่การหาคนผู้มีความสามารถประสบการณ์ด้านการดูแลผู้สูงอายุนั้นหาไม่ยากเลย แต่ปัญหาที่พบอย่างแน่นอนคือความไว้ใจว่าเขาจะมาดูแลได้ดีหรือไม่หรือการนำพ่อแม่หรือญาติ หรือผู้ป่วย มาฝากที่ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ จะสามารถเชื่อได้หรือไม่ว่าเขาจะดูแลได้เพียงเท่านี้จึงเป็นปัญหาที่ต้องหาคำตอบได้จากการสอบถามการแนะนำจากคนรู้จักหรือคนที่เป็นพยาบาล แพทย์ ซึ่งเป็นอาชีพอยู่แล้ว แนะนำว่าต้องหาจากที่สถานที่แบบนี้จากที่ใด ซึ่งเราเองไม่ว่าจะในฐานะเจ้าของธุรกิจ หรือคนที่เป็นลูก หรือญาติ ที่เลือกจะเข้ามามองหาที่ จะให้ความไว้วางใจให้พ่อแม่ หรือคนป่วย มาอยู่เพื่อพักฟื้นร่างกาย ได้อยู่อย่างมีความสุข และโดยที่เราเองไม่ต้องกังวล นั้นมันหายาก แต่โดยสังคมปัจจุบัน หลายคนที่มองเปลือกนอกจะบอกว่าลูกทอดทิ้งพ่อแม่ หรือป่วย เพราะขี้เกียจดูแล รำคาญ เป็นภาระแต่ในความจริงแล้วคือคนที่จะนำพ่อแม่หรือคนป่วยมาอยู่ได้นั้นต้องมีความกังวลใจ หรือเป็นห่วงอยู่ไม่น้อย ว่าจะเป็นการดีหรือไม่ที่จะให้พ่อแม่ไปอยู่แบบนั้นในอีกด้านคนที่เป็นเจ้าของธุรกิจเอง ว่าทำอย่างไรให้ผู้คนส่วนมากเข้าใจ และไว้ใจที่จะให้พ่อแม่ หรือคนไข้มาอยู่กับเรา เพื่อทำการพักฟื้นหรือรักษา เนื่องจากมีธุรกิจแบบนี้เกิดขึ้นจึงมีการแข่งขัน และที่เลี่ยงไม่ได้คือภาพลักษณ์ที่เกิดขึ้นในส่วนที่ไม่ดี คือการดูแลที่เกิดจากคนที่เข้ามาดูแล ไม่มีความอดทน และความสามารถมากพอ และไม่เข้าใจในการที่จะดูแลเพราะด้วยเชื่อว่าไม่ใช่พ่อแม่ หรือญาติของตน ทำอย่างไรก็ได้ เพื่อเงิน..แน่นอนไม่ว่าเรื่องใดก็ตาม ย่อมเป็นสิ่งที่มีสองด้านเสมอ คือด้านดี และไม่ดี จึงจำเป็นมากที่เจ้าของธุรกิจเองต้องมองคนที่จะมาเป็นทำงาน มาเป็นผู้ดูแล การให้บุคคลเหล่านั่นมาทดลองงาน ฝึกฝนจนกว่าจะเชื่อใจได้ว่าบุคคลนั้นทำงานได้จริง และรวมถึงจิตใจ อุปนิสัยของบุคคลนั่นด้วยเช่นกัน แต่อย่างไรก็ตามเราต้องให้โอกาสคนเราและอยู่ที่ว่าเราจะยอมรับมากน้อยเพียงใด หรือเปิดใจที่จะยอมรับเพียงใดมากกว่าแต่เมื่อเวลาผ่านไป สังคมและการเปลี่ยนแปลงก็ผ่านไปด้วย ก็ทำให้มองเห็นว่าผู้สูงอายุ มีเพิ่มมากขึ้นพอกับจำนวนประชากรที่มีมากขึ้นเช่นกัน จึงมีการนำผู้สูงอายุมาฝากไว้กับศูนย์ดูแล ซึ่งกลายเป็นสังคม หรือสมาคมผู้สูงอายุที่เกิดขึ้น และก็สร้างความเชื่อใจว่าผู้สูงอายุที่อยู่กันแบบสังคม หรือสมาคม และผู้ป่วยที่เข้ามาอยู่เพื่อพักฟื้น มีความสุขที่อยู่กันแบบครอบครัว ถือว่าทุกคนเปิดใจ และยอมรับกับสังคมและการเปลี่ยนแปลงที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ได้ดีมากเลยทีเดียว การเปิดใจยอมรับนั้น ไม่ใช่เพียงตัวเราเอง ขึ้นอยู่กับทุกคน รวมทั้งผู้สูงอายุที่ต้องมาอยู่รวมกัน ถ้าตัวผู้สูงอายุเองไม่เปิดใจ ก็จะไม่สามารถเข้ามาอยู่ในสังคมแบบนี้ได้เหมือนกับคนเราย้ายที่ทำงานใหม่หรือเพิ่งเข้าทำงานที่จะต้องเลือกปรับตัวให้เข้ากับสังคมในที่ทำงานให้ได้เช่นกันด้วยเหตุการณ์ดังต่อไปนี้ ดิฉันเองต้องบอกเลยว่า ได้เข้าไปศึกษาและเข้าไปมีส่วนดูแลในศูนย์ผู้สูงอายุตั้งแต่เด็กและจนถึงปัจจุบัน  จึงทำให้รู้เลยกับสิ่งที่เรียกว่า คนเรายิ่งแก่นิสัยก็เหมือนเด็ก มันเป็นแบบนั่นจริง...  แต่มันเป็นการเปรียบเทียบที่เห็นชัดว่า ผู้สูงอายุต้องการการใส่ใจ กำลังใจ การเอาใจใส่จากคนรอบข้าง ต้องการความสุข สนุกสนาน อาหารอร่อย อื่นๆมากมาย ทำให้มองว่าเหมือนเราตอนเด็ก อีกอย่างคือเราจะมีความผูกพันธ์กับผู้สูงอายุที่เข้ามาอยู่ในศูนย์ของเรา และรับรู้ถึงการใช้ชีวิต การมีความสุข การเจ็บ ป่วย การจากไป..ดิฉันต้องการจะบอกต่อคือชีวิตคนเรามันไม่แน่นอน มีคุณยายที่อยู่ที่นั้นปวดเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย ซึ่งหมอบอกว่าจะอยู่ได้แค่ 6 เดือน ซึ่งมันเป็นเรื่องลำบากใจที่ดิฉันและอา รับรู้เรื่องนี้ แต่จะตัดสินใจบอกคุณยายดีหรือไม่เมื่อคิดแล้วว่าคนเราหากมีชีวิตอยู่ได้แค่ 6 เดือน บางคนยอมรับได้ บางคนยอมรับไม่ได้ถึงขนาดคิดสั้น..

แต่คุณยายเองแล้วเพียงแค่ไปหาหมอตรวจแต่ละครั้งสิ่งที่คุณยายพูดมาตลอดคือไม่ได้เป็นอะไรจะไปทำไมตรวจนั่นนี่เยอะแยะ ทำให้กลัวทุกที ทั้งหมอและญาติของคุณยาย
  จึงมีความเห็นว่าให้คุณยายอยู่โดยที่ไม่ต้องมากังวลใจเรื่องที่ตนเป็นมะเร็งเพราะอาจจะกระทบถึงจิตใจ จึงเลือกที่จะไม่บอกคุณยาย โดยทุกวันนี้คุณยายเองก็อยู่แบบมีความสุข กินของที่อยากกิน ได้ใส่บาตรทำบุญ ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ศูนย์ของเราได้จัดมาโดยตลอด และโดยไม่ต้องมานึกถึงว่าคุณยายจะมีชีวิตต่อไปอีกนานเพียงใด แต่สิ่งที่ทราบมาโดยตลอดคือคุณยายสามารถอยู่ได้มาเกิน 6 เดือนทั้งที่ปวดเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย  นั่นแหล่ะ ทำให้ดิฉันทราบเลยว่าคนเราเมื่อสภาพจิตใจดี สุขภาพร่างกายก็ดีไปด้วยการที่อาของดิฉันทำธุรกิจนี้มาได้ต้องยอมรับเลยว่าต้องใช่ความอดทนและประสบการณ์อย่างมาก เพราะต้องเจอกับสถานการณ์หลายอย่างจนทำให้ปัจจุบันธุรกิจศูนย์ดูแลผู้สูงอายุเป็นธุรกิจหนึ่งที่คนจับตามองและอาก็คอยบอกดิฉันอยู่เสมอว่า ธุรกิจแบบนี้ สิ่งที่ต้องใส่ใจคือตัวผู้สูงอายุที่เข้ามาอยู่ที่ศูนย์ต้องดูแลให้ท่านมีความสุขมากที่สุด และลูกค้ามีความมั่นใจในเรามากที่สุดสำหรับเจ้าของธุรกิจเองก็ต้องสร้างความเชื่อใจอย่างต่อเนื่องและพัฒนาเปลี่ยนแปลงธุรกิจอุปกรณ์ความทันสมัย ทั้งด้านสภาพแวดล้อม สถานที่ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับคนที่ชื่อว่าลูกค้าหลายคนมองเห็นว่าธุรกิจศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ ได้รับความไว้ใจและมีคนเลือกที่จะประกอบธุรกิจนี้มากยิ่งขึ้นนั่นคือทำให้เกิดการแข่งขันด้านธุรกิจ ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาที่จะมีการแข่งขันเกิดขึ้นแต่สิ่งที่เราต้องไม่ลืมคือเราเคยทำธุรกิจมาแบบใดก็ให้ปฎิบัติเช่นเคยอย่าทำเพียงเพื่อได้รับชัยชนะจากการคิดที่จะแข่งขันในสังคม แต่เราต้องมองว่าการที่เราจะไปถึงจุดหมายนั้น ต้องทำอย่างไรไม่ให้มันกระทบต่อผู้สูงอายุ และลูกค้าที่เรามีอยู่เพราะต้องคิดอยู่เสมอว่าหากไม่ได้อะไรก็ไม่ควรให้สิ่งที่มีอยู่เสียไป  
ทั้งนี้ การที่ดิฉันได้อยู่กับธุรกิจศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ แม้มันจะไม่ใช่เวลายาวนานเป็นหลายสิบปี แต่ทำให้คิดเสมอว่า ชีวิตคนเราสำคัญ แม้จะมีปัญหามากมายเข้ามา ก็จะต้องผ่านปัญหานั้นไปให้ได้ โดยการดูแลสุขภาพกาย จิตใจ ชีวิตของเรา ให้มีความสุขขึ้นมาให้ได้ เพื่อที่เราจะนำพาธุรกิจของเราที่ทำอยู่สามารถประสบความสำเร็จในที่สุด...
ขอขอบคุณผู้สนับสนุนและไว้ใจให้ศูนย์นวมินทร์ธิเบศร์ เนอร์สซิ่งโฮม ได้ดูแลท่านและคนของท่าน

0 ความคิดเห็น: